การแมะ คือ อะไร
การแมะ คือ การตรวจโดยการจับชีพจร แต่จุดมุ่งหมายและวิธีการตรวจนั้นต่างกัน ในศาสตร์แพทย์แผนจีนกล่าวว่าภายในเส้นเลือดนั้นนอกจากจะมีเลือดอยู่ภายใน แล้วยังมีชี่ หรือที่เรียกให้เข้าใจง่ายๆว่า ลมปราณ อยู่ด้วย ลมปราณจะเป็นตัวที่ขับดันเลือดให้ไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆของร่างกาย(ที่ทำให้ เกิดชีพจร) โดยที่ลมปราณที่ไปยังอวัยวะต่างๆนั้น จะสามารถดูถึงความผิดปกติได้ในตำแหน่งที่ต่างกันในขณะจับชีพจร และความช้า เร็ว ของชีพจรก็จะเป็นตัวบอกถึงสภาพของแต่ละคนได้(ในภาวะที่ร่างกายอยู่ในสภาพ ปกติ ไม่เหนื่อยหรือหลังทานอาหารใหม่ๆ เป็นต้น) เช่น เร็ว-โรคของอวัยวะกลวง โรคร้อน ช้า-โรคของอวัยวะตัน โรคเย็น ลอย-โรคจากภายนอก จม-โรคจากภายใน แรง-ภาวะแกร่ง อ่อนแอ-ภาวะพร่อง เนิบช้า-ความชื้น แน่น- ความเย็น และมือซ้าย สามารถดูได้ถึงอวัยวะ เช่น หัวใจ ตับ ไต ,มือขวา-ปอด กระเพาะอาหาร ไต เป็นต้น ซึ่งถ้าหมอจีนที่มีประสบการณ์สูงๆ ก็สามารถดูได้ว่ามีอะไรผิดปกติบ้าง แต่ถ้าเพิ่งเริ่มเรียนก็สามารถดูได้คร่าวๆก่อน เช่น หัวใจ ตับ ไต กระเพาะอาหาร เป็นต้น
การแมะเพื่อตรวจสอบชีพจรนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะตรวจหรือแมะกันบริเวณข้อมือ เพราะว่าบริเวณข้อมือมีจุดต่างๆที่หมอแมะสามารถจับชีพจรได้ และจุดจับชีพจรบนข้อมือแต่ละข้างก็สื่อถึงการทำงานของอวัยวะที่แตกต่างกันออกไป เช่น หมอแมะจะตรวจสอบการทำงานของกระเพาะอาหาร ต้องตรวจสอบทางด้านมือขวา แต่ถ้าต้องการแมะเพื่อตรวจสอบการทำงานของลำไส้เล็ก ก็ต้องแมะกันที่มือซ้าย เป็นต้น
การแมะเพื่อตรวจสอบชีพจรนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะตรวจหรือแมะกันบริเวณข้อมือ เพราะว่าบริเวณข้อมือมีจุดต่างๆที่หมอแมะสามารถจับชีพจรได้ และจุดจับชีพจรบนข้อมือแต่ละข้างก็สื่อถึงการทำงานของอวัยวะที่แตกต่างกันออกไป เช่น หมอแมะจะตรวจสอบการทำงานของกระเพาะอาหาร ต้องตรวจสอบทางด้านมือขวา แต่ถ้าต้องการแมะเพื่อตรวจสอบการทำงานของลำไส้เล็ก ก็ต้องแมะกันที่มือซ้าย เป็นต้น
" การแมะนั้นจะเกี่ยวข้องกับการมีสมาธิ คนตรวจจะต้องมีสมาธิพอสมควร ถ้าคนที่แมะเก่งๆ หากตรวจหัวใจคนไข้บางทีต้องควบคุมการเต้นของหัวใจตัวเองกับคนไข้ว่ามีจังหวะ เดียวกันมั้ย เพราะฉะนั้นการฝึกสมาธิต้องมีบ้าง มาถึงจะไปจับส่งเดชไม่ได้นะครับ แล้วการจับชีพจรนี่ก็จับตรวจโรคได้บางอย่าง บางอย่างก็ตรวจไม่พบ ไม่ใช่ว่าจับชีพจรแล้วจะตรวจพบหมดนะครับ การตรวจจากชีพจรเนี่ยมันบอกถึงการเต้นของหัวใจ การไหลเวียนของเลือด ความร้อนความเย็นในร่างกายมันจะบอกได้จากชีพจรทั้งนั้นเลย เพราะฉะนั้นรหัสการเต้นของชีพจรก็คือรหัสของโรค เราต้องอ่านรหัสแปลเป็นโรค วิธีการจับก็อยู่ในบริเวณข้อมือซึ่งจะมีชีพจรอยู่ ซึ่งถ้าชำนาญจับเดี๋ยวเดียวก็รู้"
หมอเส็ง |
คุณหมอเส็งเป็นทั้งแพทย์และเภสัชกรนอกจากคุณหมอเส็งมีความสามารถทางด้านการแพทย์ไทยและจีนแล้ว ยังมีความสามารถในการปรุงยาสมุนไพรสูตรต่างๆ นั่นหมายความว่า ท่านเป็นทั้งบุคคลทางการแพทย์ที่มีคุณสมบัติอย่างครบถ้วน ยิ่งไปกว่านั้นท่านยังได้รับใบประกอบประกอบโรคศิลปะ สาขาเวชกรรม และใบประกอบโรคศิลปะ สาขาเภสัชกรรม เป็นเครื่องการันตีคุณภาพและมาตราฐานอีกด้วย